บ้านที่มีแต่สิ่งของเยอะเต็มไปหมด ขาดการทำความสะอาด มีแต่ฝุ่นคละคลุ้ง ย่อมไม่ทำให้เกิดพลังงานที่ดี และคนที่อาศัยก็เจ็บป่วยบ่อยด้วย หนังสือจัดบ้าน ที่แนะนำนี้ จะเป็นตัวช่วยที่ดีที่ทำให้บ้านคุณน่าอยู่ และชีวิตเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น
แนะนำวิธีจัดบ้านจากหนุ่มมินิมัลลิสต์ ผู้เคยมีชีวิตวุ่นวาย วันๆ เวลาไม่เคยพอ แถมที่พักก็ยังสกปรกรกรุงรัง แทนที่จะได้กลับบ้านมาพักผ่อนอย่างสบายใจกับต้องอยู่กับฝุ่นและข้าวของเต็มบ้าน แต่ทุกสิ่งก็เปลี่ยนไปเพียงแค่เขาตัดใจทิ้งข้าวของที่ไม่จำเป็นในชีวิต เพื่อให้ตัวเองได้พบสิ่งที่สำคัญและจำเป็นจริงๆ กลายเป็นมินิมัลลิสต์ เรียบง่าย มีเวลามากขึ้น ได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม และมีความสุขมากยิ่งขึ้น
วิธีที่เขาแนะนำจะเริ่มตั้งแต่การตัดใจจากสิ่งของ จริงอยู่ที่บ้านของทุกคนต้องมีสิ่งที่เก็บไว้นานจนฝุ่นจับ แต่ไม่ได้หยิบมาใช้เลยสักครั้ง กระทั่งโทรทัศน์ที่ใหญ่เกินความพอดีเขาจะขายทิ้งและเปลี่ยนมาใช้ขนาดกะทัดรัดแทน เพื่อสะดวกกับการขนย้ายและการจัดเก็บมากขึ้น คนที่ย้ายที่พักบ่อยๆ ควรอ่านหนังสือเล่มนี้เป็นอย่างยิ่ง!
บริเวณที่รกพอๆ กับห้องนอน หรือห้องครัว ก็คือบนโต๊ะทำงาน โดยในเล่มนี้จะบอกวิธีการจัดการกับโต๊ะทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณ เปรียบเทียบว่าการเพิ่มพื้นที่บนโต๊ะทำงาน ก็คือการเพิ่มพื้นที่ให้สมอง โต๊ะโล่งๆ ย่อมทำให้คุณคิดไอเดียดีๆ ออก และยังอธิบายวิธีใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือเพื่อทำให้การทำงานของคุณง่ายขึ้นด้วย เช่น กล่องเก็บของ แฟ้มรูปแบบต่างๆ
ใครโต๊ะทำงานรก ไม่ว่าจะที่ทำงานหรือที่บ้าน เล่มนี้จัดการได้อยู่หมัด!
ประเทศสวีเดน เป็นประเทศในฝันของใครหลายคน ทั้งสภาพอากาศที่ดี สวัสดิการดี และการใช้ชีวิตแบบคนสุขภาพดี แนวคิดแบบลากอมเหมาะสำหรับคนที่อยากละทิ้งความฟุ้งเฟ้อมาสู่ความสุขแบบเรียบง่าย เช่น กินอาหารจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ เน้นปรุงอาหารเอง และรับประทานอย่างพอประมาณ แต่งตัวและใช้ข้าวของเครื่องใช้แบบเรียบง่ายแต่ดูดี เน้นประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ราคาของสิ่งของบางอย่างอาจจะแพงมาก แต่แลกมาด้วยความคุ้มค่าในการใช้งานแล้วก็คือว่าใช้คุ้ม ใช้นานเลยทีเดียว
นี่คือหลักมินิมัลลิสต์แบบสแกนดิเนเวียนแท้ๆ ที่จะช่วยให้คุณมองชีวิตในมุมใหม่ ข้าวของที่เราเคยซื้อเก็บไว้ สุดท้ายแล้วอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่กว่าที่คิด ในสวีเดนมีแนวคิด Death Cleaning คือการเก็บกวาด กำจัดข้าวของที่ไม่จำเป็น และใช้ชีวิตให้เล็กที่สุด เพราะใครจะรู้ว่าข้าวของที่เราอยากเก็บ อยากซ่อน อยากให้ หรืออยากทิ้ง วันหนึ่งถ้าเราไม่อยู่แล้วจะตกเป็นภาระของใคร
เล่มนี้บอกวิธีจัดการกับสิ่งของต่างๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน เช่น รูปถ่าย จดหมายเก่า ตุ๊กตาเน่า เสื้อผ้าที่ไม่เคยใส่ ของขวัญที่ไม่อยากได้ควรทำอย่างไรกับสิ่งนั้นดี
หนังสือเล่มนี้เขียนโดยมะสึดะ มิทสึฮิโระ ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลห้องและการทำความสะอาด ด้วยประสบการณ์การทำความสะอาดและดูแลห้องของคนญี่ปุ่นมามากกว่า 20 ปี ไม่ว่าจะเป็นบ้านของผู้บริหารที่มีรายได้หลายสิบล้าน บ้านของครอบครัวที่แสนอบอุ่น หรือแม้กระทั่งห้องที่เคยเกิดเหตุอาชญากรรมมาก่อน
เขาได้บอกเล่าเรื่องราวการจัดห้องจากสิ่งที่พบเจอมา เช่น ห้องน้ำของบ้านที่ร่ำรวยเป็นอย่างไร การที่ห้องมีกลิ่นอับส่งผลเสียอย่างไรบ้าง รวมไปถึงวิธีแก้ไขที่ทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้นได้
ลองสังเกตดูว่าพักนี้การงานไม่ราบรื่น ความสัมพันธ์ในครอบครัวไม่เวิร์ค หรือมีปัญหาเข้ามาให้แก้ไม่หยุดไม่หย่อนหรือเปล่า บางทีสาเหตุอาจมาจากสภาพแวดล้อมและสภาพออฟฟิศที่ดูแย่ ดึงดูดแต่สิ่งลบเข้ามา สิ่งสำคัญที่หนังสือเล่มนี้บอกคือ มีวิธีอะไรที่ทำให้บ้านและออฟฟิศกลายเป็นสถานที่ที่มีแต่ความสุข ความสำเร็จโดยไม่ต้องย้ายที่อยู่ เพียงแค่ปรับวิธีคิด และปรับปรุงจุดต่างๆ ในบ้าน พร้อมมีตัวอย่างบ้านของคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตเพื่อให้ทำตามได้ง่ายๆ
ถ้าอยากเป็นคนรวย คุณต้องมีหนังสือเล่มนี้!
กล้าทิ้งสิ่งที่ของที่ไม่ได้ใช้และจัดการกับข้าวของในบ้านเสียใหม่ ไม่ว่าจะหาเงินได้เท่าไร ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร อย่ายอมให้ความโลภควบคุมเราได้ เช่น การซื้อเครื่องเสียงชุดใหม่ทั้งๆ ที่เพิ่งซื้อเครื่องเก่ามาได้สองเดือน หรือซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ๆ เข้าบ้านไม่หยุด สิ่งเหล่านี้จะทำให้เรารู้สึกกดดัน เป็นทุกข์ เพราะต้องการสิ่งใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยทั้งๆ ที่สิ่งที่มีอยู่ก็ยังใช้ได้ดีอยู่แล้ว
หนังสือเล่มนี้ไม่ได้พูดถึงประโยชนืของการจัดการบ้านอย่างเดียวเท่านั้น ยังเสนอวิธีที่ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ขาดระเบียบเพียงใด ก็สามารถทำตามได้
เป็นบ้านธรรมดาให้กลายเป็นขุมพลังแห่งความโชคดี หนังสือที่จะช่วยให้คุณสนุกสนานกับการรีเซตฮวงจุ้ยง่ายๆ 3 ขั้นตอน คือ ทิ้ง ปรับเปลี่ยนชีวิตประจำวัน และปรับฮวงจุ้ย ก็สามารถเรียกโชคได้ทั้งการเงิน การงาน สุขภาพ และความรัก
ควรเอาอะไรไว้ตรงโถงทางเดิน สิ่งไหนไม่ควรอยู่ในห้องนอน หรือมีไว้ในห้องจะเรียกโชคดีให้มากยิ่งขึ้น ติดตามได้ในหนังสือเล่มนี้เลย
บทความนี้มาจากเพจ : Amarin books